สำหรับพวกเราแล้ว ช่วงปลายปีถือเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจที่ทั้งออฟฟิศต่างเฝ้ารอคอย
ให้มาถึง เวลานี้นี่เองที่สมุดบันทึก กล้องถ่ายรูป และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จะถูกนำมาปัดฝุ่นเตรียมไว้ใช้เป็นอุปกรณ์ในการเดินทางออกไป “ตามล่า” หาไอเดียตามที่ต่าง ๆ จากทุกมุมโลก มารวบรวมไว้เป็นวัตถุดิบให้ผลผลิตทางความคิดสร้างสรรค์ของ Ketchup IMC สดใหม่อยู่เสมอ โดยในปี 2013 เรามีจุดปลายทางอยู่ที่ลอนดอน เมืองหลวงแห่งดีไซน์ ศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์ ส่วนจะเป็นพิกัดไหนในลอนดอนบ้างตามมาได้เลย!

DAYLESFORD : STRAIGHT  FROM  OUR  FARM  TO  YOUR  FORK

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

LDN2013-35

dayles-01

Exif_JPEG_PICTURE

DSCF0058

Stop แรกของเราในลอนดอนคือ Daylesford คาเฟ่และร้านขายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
ขนาดกระทัดรัดที่ในเว็บไซต์บอกไว้ว่า อาหารทุกอย่างของที่นี่ “Straight from our farm to your fork” 
เมื่อมาถึงที่ร้านภาพเหล่าลอนดอนเนอร์นั่งละเลียดจิบน้ำผลไม้กลางแสงแดดสี สวยยามเช้า นับเป็นภาพความ
ประทับใจแรกที่ทำให้เราตกหลุมรักร้านนี้ทันทีที่ได้มา ส่วนภายในร้านก็จะมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสด ๆ ละลานตาส่งตรงจากฟาร์มไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ชีส และเบเกอรี่ต่าง ๆ ที่ดิสเพลย์ได้ชวนน้ำลายไหลเป็นที่สุด อาหารของที่นี่ก็มีหลากหลาย เช่น เมนูคลาสสิคยามเช้าอย่าง Pancake หรือ Egg Benedicts แต่ไม่ว่าจะเลือกทานอะไรทุกเมนูก็พิเศษด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่สดส่งตรง จากฟาร์มที่ใครมาชิมก็น่าจะติดใจ อิ่มพุงกันแล้วก็มาอิ่มตากับการดีไซน์ของที่ระลึกกันต่อ โซนหนึ่งในร้านมีของภายใต้แบรนด์ Daylesfrod รอให้เราหอบหิ้วกลับบ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจานชามเซรามิกรูปหัวใจ, ช้อนไม้ และกระเป๋าผ้า ทุกอย่างล้วน
ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและเรียบง่ายแต่ยังได้กลิ่นอายของความ ออร์แกนิกและความน่ารัก เรียกได้ว่ามองไป
ทางไหนก็มีแต่ของที่ชวนให้เสียตังค์

EVERYTHING  AND  EVERYTHING

DSCF0080

LDN2013-53

DSCF0083

homapage

  DSCF0090

กล้องโพราลอยด์ SX-70 จานเซรามิก ไม้กอล์ฟ แผ่นไวนิล หนังสือมือสอง ลูกบิดประตู ฟ้อนท์ตัวตะกั่ว หรือแม้กระทั่งวิกผม! อยากได้อะไรหาซื้อได้หมดที่ Portobello Market  ใครมาที่นี่แล้วไม่เสียตังค์นับว่าเป็นผู้ที่มี
มีจิตใจแข็งแกร่งดุจหินผาเพราะที่นี่มีของยั่วกิเลสอัดแน่นไปทุกตารางนิ้ว จะว่าไปแล้ว Portobello ก็ทำให้คิดถึง
จตุจักรอยู่ไม่น้อย จะต่างกันก็คงเป็น สภาพอากาศที่เย็นสบาย สำเนียงบริติชเจื้อยแจ้ว และแบ็คกราวด์การช็อปปิ้ง
ที่เป็นตึกสีลูกกวาดชวนให้แวะถ่ายรูปเก็บสีไปเป็น Pantone สุด ๆ 
     นอกจากจะมีของมือสองขายกันอย่างคึกครื้นแล้ว ที่นี่ยังมี Street Food นานาชนิดให้เราได้ชิมไม่ว่า
จะเป็นเบอร์เกอร์ (ที่คนขายแต่งตัวเป็นเบอร์เกอร์) Paella หรือข้าวผัดสเปนในกระทะ XXXL (ที่น่ายืม
ไปทำหอยทอดที่ใหญ่ที่สุดในโลก) อิ่มพุงกางแล้ว ก็ไปเดินย่อยอาหารและแวะดูการแสดงเปิดหมวกกันสักหน่อย 
โชว์ฟรีที่น่าประทับใจที่สุดคือการเล่นดนตรีของชายหนุ่มผู้ดัดแปลงเอาแร็คเกตเทนนิสมาทำเป็นกีต้าร์ เชื่อแล้วว่า
ลอนดอนเป็นเมืองหลวงแห่งความคิดสร้างสรรค์จริง ๆ

CAN  YOU  FEEL  THE  LOVE  TONIGHT

IMG_8236

LDN2013-449

การตามหาแรงบันดาลใจของเราลากยาวไปถึงช่วงค่ำคืน ในคืนนี้เราจะไปศึกษางาน Production กันที่ Lyceum Theatre ที่ที่ความทรงจำวัยเด็กของพวกเราจะกลับมาโลดแล่นบนเวทีอีกครั้งกับโชว์
“The Lion King” เมื่อม่านปิด เสียงเพลงคุ้นหูที่ร้องว่า “ นาาาาาา ซิเพ่นยาาาาาาาาา! ” ก็กลับมาดังก้องอีกครั้ง
จากนั้นสัตว์ป่าแอฟริกาก็ออกมาเดินบนรันเวย์กันอย่างขวักไขว่ไม่ว่าจะเป็นลิง ยีราฟ เสือ ฝูงนก ช้าง รวมไปถึงสิงโต
พระเอกของเรื่อง ทั้งหมดนี้เป็นคอสตูม (กึ่ง ๆ พร็อพ) ที่ต้องอาศัยความโปรของนักแสดงเป็นอย่างมากเพราะต้อง
ก็อบท่าเดินของสัตว์ และต้องรู้กลไกที่อยู่ในชุดว่าจะต้องเชิดยังไงให้ ไหนจะต้องจำบล็อกกิ้งอีก จำบทอีก เห็นแล้ว
เหนื่อยแทน และแม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวจะจบลงแบบไหน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงแม้แต่น้อย เพราะได้นั่งลุ้นว่าเค้าจะดีไซน์ฉากต่อไปได้เจ๋งแค่ไหน เมื่อโชว์สิ้นสุดเราบอกได้คำเดียวว่า “ดีเว่อร์!”

IMMERSED  IN  ART  AND  DESIGN

DSCF0563

  DSCF0548

va-01

  DSCF0527

DSCF0553

DSCF0532

ลงจากสถานี South Kensington มาก็จะได้พบที่ที่มีแรงบันดาลใจอัดอยู่แน่นเอี๊ยดทุกตารางนิ้ว นั่นก็คือ V & A Museum เข้ามาปุ๊ปก็จะพบกับแชนโดเลียแก้วขนาดยักษ์ของ Chihuly ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็จะได้
เวลาเติมอาหารตาแบบบุฟเฟต์เพราะที่นี่มีอะไรให้ดูเยอะจนตาลาย ห้องจัดแสดงก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ห้อง
ที่ว่าด้วยการออกแบบ Jewelry ห้องเซรามิก ห้องแก้ว ห้องประวัติศาสตร์เฟอร์นิเจอร์ ห้องที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ
การออกแบบฉากและคอสตูมละครเวที และอีกหลายต่อหลายห้องที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและดีไซน์ แถมในแต่ละ
ห้องก็มีวัตถุจัดแสดงเป็นร้อย ๆ พัน ๆ ชิ้น! คงต้องย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ถึงจะดูหมด! แต่เท่าที่สังเกตก็ไม่ค่อยมีใคร
รีบร้อนดูให้ครบสักเท่าไหร่ บางคนก็สุนทรีย์ไปอีกขั้นด้วยการเตรียมกระดาษดินสอมานั่งสเก็ตช์ ส่วนใครที่ไม่อิน
กับศิลปะไม่ต้องกังวลไป ที่นี่มีคาเฟ่เอ้าท์ดอร์ให้ไปนั่งกินขนมท่ามกลางดอก Hydrengea ในอากาศสบาย ๆ ถ้าจะพกหนังสือไปอ่านสักเล่มก็น่าจะดีไม่น้อย หรือถ้าเวลาเหลือก็อาจจะไปเดินเล่นที่ Museum อื่นๆ แถวนั้นที่มี
อยู่อย่างชุกชุมไม่ว่าจะเป็น Natural History Museum หรือ Science Museum

I  SEE  TREES  OF  GREEN

DSCF0776

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

DSCF0784

DSCF0780 DSCF0789

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หลังจากเก็บแรงบันดาลใจใส่กระเป๋าจนตุงแล้ว เดินต่อไปอีกนิดก็จะถึง Hyde Park อันได้ชื่อว่า
เป็นปอดของ London มองไปทางไหนก็จะเจอกับต้นไม้ต้นใหญ่สีเขียวสบายตา และกระรอกตัวอ้วนจ้ำม่ำ
ที่โผล่มาทักทายพวกเราเป็นระยะ ๆ ราวกับเป็นเพื่อนสนิท แต่สิ่งที่เราตั้งใจมาดูกันในวันนี้คือการแสดงงาน
ศิลปะประจำปีที่จัดขึ้น ณ Serpentine Gallery โดยในแต่ละปีสถาปนิกแนวหน้าระดับโลกจะได้รับการเชื้อเชิญ
ให้มาออกแบบ Serpentine Summer Pavilion ซึ่งเป็นงาน Installation ชั่วคราวที่มีให้ชมเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
     สำหรับปี 2012 Sou Fujimoto สถาปนิกชาวญี่ปุ่น ดีไซน์ Summer Pavilion โดยนำท่อนเหล็ก มาประกอบเป็นโครงสร้างสีขาวที่มองแล้วคล้าย ๆ กับก้อนเมฆทรงเรขาคณิต เมื่อเข้าสู่ Pavilion เราจะได้สัมผัสถึงความพยายามในการดีไซน์สถาปัตยกรรมให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุโปร่งแสงเพื่อเชื่อมโยงระหว่างบริบทภายนอกและภายในรวมไปถึงการออกแบบที่สเปซ
ที่มีความสลับซับซ้อนแต่ว่าคนสามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนได้โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด แม้โครงสร้างนี้จะต้อง
ถูกรื้อออกไป แต่ในปีหน้าก็จะมี Summer Pavilion ในเวอร์ชั่นใหม่จากสถาปนิกคนใหม่ มาสร้างความน่าสนใจ
ให้พื้นที่นี้เช่นเดิม

WINGADIUM  LEVIOSA!

LDN2013-621

homapage-01

LDN2013-626

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

LDN2013-833

LDN2013-738

เชื่อว่าคนที่เคยอ่านหนังสือ Harry Potter คงมีความฝันที่จะได้เข้าไปเรียนใน Hogwarts School of Witchcraft and Wizardry แต่นาทีนี้ Muggle อย่างพวกเราอายุเกินกว่าจะยื่นใบสมัคร คงทำได้แค่เพียง
ตีตั๋วเข้าไปที่ Warner Brothers Studio Tour London เพื่อสานฝันวัยเด็ก พอมาถึงเราก็ได้ตื่นตากับพร็อบ
และฉากสุดอลังการ ที่หากจะอธิบายด้วย Hashtag คงจะพูดได้ว่าทุกสิ่งที่นี่เป็น #งานดี! #งานละเอียด! ไม่ว่าจะเป็น ฉากจากบ้านของรอน, ปราสาทน้ำแข็ง, เครื่องย้อนเวลา, อุปกรณ์ควิดดิช หรือแม้กระทั่ง Dobby ที่แม้จะเป็นเพียง
หุ่นจำลอง แต่ก็ทำให้เรารู้สึกเข้าใกล้กับหนังเรื่อง Harry Potter มากขึ้นเป็นกอง นักท่องเที่ยวบางคนถึงกับ
ถอดถุงเท้าไปมอบให้ Dobby  อีกด้วย เรียกว่าอินมาก 
     แต่ถ้าเดินดูอย่างเดียวไม่สะใจ ก็สามารถขี่ไม้กวาดท่องโลกเวทย์มนต์และจับลูกควิดดิชในจินตนาการได้ เพราะที่นี่มีบริการ  Green Screen ไว้สำหรับถ่ายรูป หลังจากขี่ไม้กวาดซิ่งไปทั่วแล้วถ้าเหนื่อยก็สามารถ
แวะจิบ Butterbeer เย็น ๆ เพิ่มอรรถรส #ความแฮร์รี่พ็อตเตอร์ ได้อีก ก่อนกลับ แฟนคลับแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ คนไหน
อยากสัมผัสประสบการณ์การล้มละลาย สามารถแวะซื้อผ้าพันคอ Slytherin, ไม้กายสิทธิ์, ช็อกโกแลตรูปกบ, Bertie Botts เจลลี่บีน, ตุ๊กตา Hedwig และอื่น ๆ อีกมากมายบรรยายไม่หมด

HAVE  A  CUPPA  TEA

LDN2013-183 copy

DSCF0182

LDN2013-126

LDN2013-131

LDN2013-146

ทริปลอนดอนคงไม่อาจสมบูรณ์แบบไปได้ หากขาดประสบการณ์การนั่งจิบชาพร้อมละเลียด Scone โดยสำหรับชาวอังกฤษแล้วชาไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มหากแต่เป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึก การดื่มชาจึงค่อนข้าง
มีพิธีรีตรองพอสมควร อย่างเช่นกระบวนการดื่มชานมก็ยังกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันขึ้นมาได้ว่าควรเทนม
ก่อนหรือหลังการเทชา เช่นเดียวกับการกิน Scone ว่าควรทาอะไรก่อนระหว่าง แยม กับ Clotted Cream แต่อย่าเกร็งไปเพราะร้านชาที่ให้เรานั่งดื่มแบบสบายๆ ก็มีอยู่ทั่วไปในลอนดอน เช่นร้าน Yum Chaa ร้านชาฝรั่งที่ออกเสียงพ้องกับภาษาจีนได้อย่างน่ารักและมีกิมมิค
     ความโดดเด่นของร้านนี้อยู่ที่การเสิร์ฟชาแบบ Loose Leaf ซึ่งเป็นใบชาที่ไม่ถูกบด และไม่ถูกบรรจุ
ลงในถุงชาทำให้ชาที่นี่มีความละเมียดละไมมากกว่าที่อื่น โดยชาที่นี่มีให้เลือกกว่า 40 ชนิด และสามารถเลือกตัว
อย่างชาได้จากโถใบเล็ก ๆ ก่อน วิธีการตั้งชื่อชาก็ครีเอทีฟมาก ๆ เช่น Enchanted Forest หรือ Chilli Chilli Bang Bang และนอกจากชาแล้วก็ยังมีแซนด์วิช เค้ก ให้เลือกทานเพิ่มอรรถรสของการดื่มชาอีกด้วย ส่วนการออกแบบ
อินทีเรียของที่นี่ก็น่ารักไม่แพ้กัน มีการ Mix and Match วัสดุและเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ให้เข้ากันได้อย่าง
กลมกล่อม บางมุมก็เพิ่มความเซอร์ให้ร้านด้วยการไดคัทรูปหน้า Woody Allen หรือ Jude Law ไปแปะตามฝา
ผนัง เรียกว่าหันไปทางไหนก็สามารถถ่ายรูปไปลง Instagram ได้ที่ร้านชาเล็ก ๆ แห่งนี้ เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป จิบชา พร้อมตามล่าแรงบันดาลใจไม่ทันไร ก็ได้เวลาลัดฟ้าสู่กรุงเทพอีกครั้ง โดยถึงแม้ว่าเราจะพยายามจัดที่เที่ยวจนล้นตารางแบบต่อเนื่องทุก ๆ วัน  ก็ยังไม่อาจตามเก็บที่เที่ยวทั้งหมด
ในลอนดอนให้ครบได้ใน 1 ทริป เพราะมหานครแห่งศิลปะ ดีไซน์ และความคิดสร้างสรรค์แห่งนี้ยังมี
แรงบันดาลใจซุกซ่อนไว้ให้ค้นหาแบบไม่มีที่สิ้นสุด ไม่แน่บางทีถ้ามีโอกาสอีกครั้งเราอาจจะมีบันทึกการเดินทาง
ภาค 2 หรือ 3 มาให้คุณอ่านต่อก็เป็นได้
 Please stay tuned!  (โปรดอ่านด้วยสำเนียงบริติช)

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save

Save